ถ้าให้พูดถึงย่านที่มีความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และมีกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติที่ใกล้ชิดริมแม่น้ำ ใจกลางย่านธุรกิจ ซึ่งมีการเดินทางที่สะดวกสบาย คงหนีไม่พ้น ‘ทำเลเจริญนคร-คลองสาน’ จุดตัดทำเลร่วมสมัยของคนรุ่นใหม่ ที่มีความหลากหลายไม่ซ้ำซากจำเจ ตอบสนองทุกการใช้ชีวิต และกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง รวมทั้งยังเป็นทำเลที่มีโครงการที่อยู่อาศัยราคาสูงเพิ่มมากยิ่งขึ้น
และสำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโด ที่อยู่ใกล้ชิดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในย่านที่มีครบจบได้ทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตคนเมือง อย่างเจริญนคร-คลองสาน ‘Banyan Tree Residences Riverside Bangkok’ คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาระดับ World Class ที่จะมอบความหมายของชีวิตที่เหนือระดับอย่างไร้ที่ติ ทั้งในด้านของการเดินทาง การพักผ่อน การใช้ชีวิต ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามอง บน Prime Area ช่วงเจริญนคร
แต่ที่ว่าไร้ที่ติระดับ World Class เนี่ยจะเป็นยังไง ผู้เขียนขอเล่าเรื่องราวความพรีเมียมนี้ ผ่าน 5 เหตุผล ทำไม ? Banyan Tree Residences Riverside Bangkok ถึงเป็นที่สุดของคอนโดริมแม่น้ำ ระดับ World Class บอกได้คำเดียวว่า....พรีเมียมสุดๆ
1: ‘เจริญนคร-คลองสาน’
ทำเลที่มีความ ‘Tranquility’
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่อยู่อาศัยของสังคมเมือง
ถ้าให้อธิบายความพรีเมียมของคอนโดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างโครงการ ‘Banyan Tree Residences Riverside Bangkok’ สิ่งแรกที่นึกออกเลย คือการที่เขาตั้งอยู่ในทำเลที่มอบความสะดวกสบายของการเดินทาง ใน ซอยสมเด็จเจ้าพระยา 17 เขตคลองสาน หรือ ซอยวัดทองนพคุณ ซึ่งเป็นซอยที่มีความสะดวกในการเดินทางทั้งเข้าและออกเมือง รวมทั้งยังเป็นทำเลที่มีความ Tranquility และใกล้ช่วงโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เห็นวิวแบบเปิดโล่งกว้างแบบสุดๆ เรียกได้ว่าแค่ทำเลก็ชนะขาดแล้ว
เพราะตัวคอนโดตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของชุมชน ซึ่งมองเห็นทั้งเมืองเก่าฝั่งเจริญนครและทิวทัศน์ฝั่งรัตนโกสินทร์ จึงทำให้ดื่มด่ำทิวทัศน์ยามค่ำคืนของ ภูเขาทอง, วัดโพธิ์, วัดอรุณ และ พระบรมมหาราชวัง อันเป็นส่วนหนึ่งของเขตเมืองเก่า รวมทั้งศูนย์การค้าและธุรกิจย่านสาทร ทำให้ง่ายต่อการหลีกหนีความวุ่นวาย เพื่อค้นพบความเงียบสงบได้อย่างแท้จริง
จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ กลายเป็นทำเล Rare Item ที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะล่าสุดมีราคาประเมินที่ดินอยู่ที่ 135,000 –250,000 / ตร.ว. ส่วนราคาคอนโด Luxury เปิดใหม่หลายโครงการก็เปิดราคาขายในราคาที่สูงกว่า 300,000-400,000 บาท/ตร.ม. ซึ่งเป็นราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ยคอนโดหรูกลางเมืองที่ราคาเฉลี่ย/ตร.ม. เลยทีเดียว
นอกจากราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ทำเลนี้ยังมีความโดดเด่นด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กันเลยล่ะ โดยเฉพาะระบบขนส่งมวลชน ที่มีทางเลือกเดินทางให้หลากหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ รถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีคลองสาน ประมาณ 250-300 เมตร ที่เชื่อมเข้ากับ รถไฟฟ้า BTS สายสีลม และ รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม ที่หัวลำโพง
รวมทั้งถ้าใครกลัวรถติด ก็สามารถเดินทางด้วย Private Boat ของโครงการ ขึ้นได้ที่ ท่าเรือส่วนตัว Banyan Tree Private Jetty ที่จะไปสาทรที่ท่าเรือตากสิน หรือจะไปย่านเก่าแก่ที่เป็นแหล่งอารยธรรมของคนไทยเชื้อสายจีน และร้าน Street Food มากมาย อย่าง เยาวราช ก็สามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ ที่ท่าเรือราชวงศ์
และยังเป็นโลเคชั่นที่มีแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่โดดเด่น และไม่เอ่ยถึงไม่ได้เลย คือ ICONSIAM Luxury Mall ริมแม่น้ำเจ้าพระยา Landmark ระดับต้นๆ ของประเทศไทย และ ICS ที่ทำให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ที่ทำให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น หรือแหล่งคอมมูนิตี้มอลล์อื่นๆ อย่าง Asiatique และ River City ซึ่งฝั่งตรงกันข้ามก็จะเป็น Jam Factory แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิปของย่านคลองสานที่มีบรรยากาศร่มรื่น ให้เดินเที่ยวได้ในวันหยุดพักผ่อน
Photo credit by: panoramicstudio.myportfolio.com
ถัดมาก็จะเป็นเเหล่งท่องเที่ยวแนว Heritage อย่าง ล้ง 1919 โครงการแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามเยื้องกับตลาดน้อย รวมถึงมีโรงแรม 3-5 ดาว อย่าง Shangri-La, Mandarin Oriental และ Milennium Hition
Photo credit by: funfoodfriend.com
นอกจากแหล่งไลฟ์สไตล์แล้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รอบด้านครบครัน ทั้งโรงพยาบาลและสถานศึกษา อย่าง โรงพยาบาลตากสิน, BNH Hospital ส่วนด้านการศึกษาก็จะมีเป็น Shrewbury International School Riverside Campus สถาบันการศึกษาจากประเทศอังกฤษ ที่ปูพื้นฐานภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ดีที่สุดในภูมิภาคอีกด้วย
Photo credit by: Shrewbury International School Riverside Campus.com
2: ใส่ใจเรื่องดีไซน์สถาปัตยกรรม
ด้วยเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ
ถัดมาก็จะเป็นเรื่องของงานดีไซน์สถาปัตยกรรมของทางโครงการที่ถือว่าเป็นการดีไซน์สุดไอคอนิก ที่ทาง NirvanaDevelopment ได้ที่ปรึกษาด้านการออกแบบร่วมกับสถาปนิก SCDA Architect ชื่อดังจากสิงคโปร์ ได้ดีไซน์สุดไอคอนิกของ คอนโดมิเนียมทรงสูง 1 อาคาร 45 ชั้น 133 ยูนิต พร้อมมีห้องพักอาศัยสูงสุดเพียง 4 ยูนิตต่อชั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวต่อการอยู่อาศัยแบบสุดๆ
เพราะคอนโดถูกดีไซน์ผ่านองค์ประกอบงานสถาปัตยกรรม ด้วยแนวคิดการออกแบบ ‘Modern Tropical Architectural Design’ ดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานและความเป็นส่วนตัว รูปแบบตัวอาคารทรงกระบอกครึ่งวงกลมที่หันเอาส่วนโค้งออกจากแม่น้ำ ทำให้ห้องทุกห้องของคอนโดในทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้
ส่วนตัววัสดุที่เขานำมาใช้ในการดีไซน์ Façade ของตัวอาคาร ก็จะมีความเป็นเมทัลลิกเบาๆ มาประกอบเป็นรูปทรงคล้ายเพชรที่เรียงไล่ระดับกันลงมา ทำให้มีความสว่างไสวโดดเด่นทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ที่รับกันได้เป็นอย่างดีกับผนังกระจกคุณภาพสูงที่มีความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน
ทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในอาคาร สามารถดื่มด่ำกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีเส้นสายมาบดบังทัศนียภาพ ตามคอนเซ็ปต์ ‘The Sanctuary For Your Soul’ ของทางโครงการ และเป็นการออกแบบอาคาร ที่ Understated ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจดจำแบบไม่เหมือนใครด้วย
3: 'Facilities'
ที่ถูกจัดเตรียมมาเพื่อคนพิเศษในพื้นที่พิเศษ
นอกจากความโดดเด่นด้วยงานสถาปัตยกรรมที่มีความพรีเมียมและเอกลักษณ์น่าจดจำแล้ว Facilities ก็ยังถูกออกแบบให้เห็นวิวแม่น้ำ แบบ Panoramic view ในทุกๆ มุมมอง ผ่านพื้นที่ส่วนกลางมากถึง 59% ของพื้นที่อาคาร เป็น Facilities กว่า 6,000 ตารางเมตร แบบจุกๆ พร้อมกับมีพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบมาได้อย่างมีเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา เพราะถูกจัดเตรียมมาเพื่อคนพิเศษในพื้นที่ที่พิเศษ
โดยไล่ตั้งแต่ Facilities ตั้งแต่ทางเข้ามาจนถึงจุด Drop-off ที่มี ซุ้มอุโมงค์ต้นไม้ ที่ใส่พื้นที่สีเขียวมาเยอะมากๆ รวมถึง สวนแนวตั้ง บริเวณโดยรอบอาคารที่ให้ความร่มรื่นแก่ลูกบ้าน
ไปจนถึง อาคารจอดรถ ที่เชื่อมไปในตัวตึก ซึ่งสามารถจอดรถได้มากกว่า 260 คัน หรือคิดเป็น 200% ของยูนิตทั้งหมด เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ Luxury ที่แต่ละครอบครัวจะมีรถส่วนตัวมากกว่า 1 คันขึ้นไป
รวมทั้งทางโครงการยังมี EV Charger ทำหน้าที่เป็นตัวชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับแบตเตอรี่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าไว้รองรับอีกด้วย
ส่วนด้านในอาคารตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้าประตูที่เป็น Lobby มีความสูงแบบ Double Volume พร้อมประตูสูงตั้งแต่พื้นถึงฝ้าเพดาน ทำให้บรรยากาศดูหรูหรา คล้ายกับโรงแรม รวมทั้งยังมี Concierge service, Doorman คอยต้อนรับ และให้บริการแก่ลูกบ้าน
ถัดเข้ามาด้านในก็จะเป็นสเปซของ Riverside Lounge ที่มาพร้อมหน้าต่างบานใหญ่ที่เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และยังทำให้รับแสงภายนอกได้เต็มที่ อีกทั้งภายในจะมีชุดโซฟารับแขกให้บริการอยู่ รวมทั้งการตกแต่ง ที่เน้นตกแต่งน้อยๆ แต่เน้นความเรียบ หรู ตามคอนเซ็ปต์ของทางโครงการ
รวมถึงความพิเศษของทางโครงการ ในด้านความเป็นส่วนตัวที่ยิ่งกว่า ด้วยการมี ลิฟต์โดยสารถึง 6 ตัว ที่แยกการใช้งานกัน ทำให้ช่วยนำส่งถึงห้องพักแบบสุดเอ็กคลูซีฟ และโอกาสที่จะเจอกับเพื่อนบ้านห้องอื่นน้อยลง เพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการอยู่โครงการระดับ Ultimate Class ที่เน้นความเป็นส่วนตัว สำหรับการพักผ่อน
ก่อนจะขึ้นไปที่ชั้น 2 ขอพาทุกท่านออกมายัง Facilities ด้านนอกของทางโครงการ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอีกมุมที่น่าสนใจ อย่างสเปซของ Outdoor Lounge มุมพักผ่อนกลางแจ้งที่เปิดรับวิวริมน้ำแบบเปิดโล่ง
และยังมี Riverside Sunken Seating Area ที่นั่งแบบลดระดับลงไปให้เสมือนนั่งอยู่ระดับเดียวกับผิวน้ำ สำหรับทำกิจกรรมหรือนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกยามเย็น ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ที่พิเศษอีก Area หนึ่ง สำหรับการพักผ่อนที่ดีอย่างหนึ่งเลย
สำหรับ Facilities บริเวณชั้นที่ 2 จะเป็นพื้นที่ทำกิจกรรมของลูกบ้าน ซึ่งประกอบไปด้วย ห้อง River View Lounge, ห้อง Library Room ตกแต่งอย่างหรูหรา น่าใช้งานแบบสุดๆ ทั้งนี้ยังมีสเปซ River Front Private Dining Room ที่พร้อมให้บริการแบบ Private Chef Table จากโรงแรม 5 ดาว ที่ลูกบ้านสามารถเรียกมาบริการแบบ Private ได้
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ Super Premium อาทิ Paranomic View Swimming Pool ถึง 2 สระ, Riverfront Jacuzzi Pool และสระเด็ก ที่เห็นวิวโค้งน้ำเจ้าพระยาแบบ Panoramic view ที่ให้บริการอยู่ที่ชั้น 3
ถัดมาก็จะเป็นสเปซของ Fitness ซึ่งมีเครื่องเล่นแบรนด์ Technogym มาให้บริการ ส่วนบรรยากาศโดยรอบจะเป็นผนังกระจก ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยสามารถออกกำลังกายไปและชมวิวภายนอกไปได้
และเดินมาอีกนิดตรงข้ามสระว่ายน้ำ ก็จะเป็นสเปซ Banyan Tree Spa Room ซึ่งสามารถเรียกเทอราปิส มาบริการที่โครงการได้
นอกจากนี้ยังมีสเปซของห้อง Kids Zone สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กได้เล่นสนุกและเพลิดเพลินในวันหยุด
และไฮไลต์ของทางโครงการที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือการบริการผู้อาศัยแบบโรงแรม 5 ดาว อาทิ Concierge Service การบริการที่เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวประหนึ่งอยู่โรงแรม แถมยังมีพรีวิลเลจ จาก Sanctuary Club รวมทั้งส่วนลดและสิทธิประโยชน์อีกมากมายในการเข้าใช้บริการโรงแรมและที่พักต่างๆ ทั่วโลก ในเครือ Banyan Tree
4: ทุกยูนิต ดีไซน์มา
เพื่อตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการพักผ่อน
มาถึงอีกประเด็นหลักที่น่าสนใจของทางโครงการเลย คือการดีไซน์ยูนิตพักอาศัย ที่ดีไซน์ออกมาด้วยการออกแบบห้อง แบบ Single Loadded Corridor หน้ากว้าง 8 เมตร ทำให้ทุกยูนิตสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ Paranomic View ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่หาไม่ได้จากที่ไหน และตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญถึงการพักผ่อนในช่วงเวลาสุดพิเศษ สำหรับลูกบ้านและครอบครัวได้อย่างแท้จริง
เพราะการออกแบบกิมมิคแบบนี้ นอกจากจะสามารถมองเห็นวิวได้อย่างเต็มที่แล้ว ภายในห้องยังมีพื้นที่ใช้สอยได้เพียงพอ และขนาดใหญ่ตามมาตรฐานสากล อีกทั้งยังมีห้องให้เลือกตรงตามไลฟ์สไตล์ ถึง 5 Type ด้วยกัน แต่วันนี้จะมารีวิว 2 Type ที่ขายแบบ Fully Fitted และเป็น 2 Type สุดท้ายของทางโครงการ ซึ่งเราจะพาไปดูทั้ง 2 ไซซ์เลย
1. ห้อง 1 Bedroom ขนาด 70.00-87.09 ตร.ม. |
2. ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 160.45-181.23 ตร.ม. |
TYPE 1 Bedroom
ขนาด 70 ตร.ม.
สำหรับสเปซแรกจะเป็นห้อง Type 1 Bedroom ขนาด 70 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น 1 พร้อมครัวแบบเปิด ซึ่งเป็นห้องที่มีความกว้าง และ ระยะ Floor to ceiling สูง 3.2 เมตร ที่ทำให้ตัวห้องมีอากาศที่ถ่ายเทได้สะดวก และสามารถนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้องได้อย่างทั่วถึง
และเมื่อเดินเข้ามาภายในห้อง ทุกคนจะสัมผัสได้ว่าทั้งห้องนั่งเล่น และห้องนอน สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบ Panoramic view ด้วยหน้าต่างกระจกทรงสูงบานใหญ่ ที่รับประกันว่ากันแดดกันแสงได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งตัวพื้นของห้องก็จะปูพื้นด้วยไม้สักขัดอย่างดี หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ ก็มาจาก แบรนด์ Poliform แบรนด์เฟอร์นิเจอร์ Minimalist Style จากอิตาลี โทนสีขาว-เบจ เพื่อรักษาความคลาสสิกไว้ รวมทั้งยังสะท้อนรสนิยมและการันตีคุณภาพ ต่อการใช้ชีวิตระดับ Luxury ที่มีความพรีเมียม
ถัดไปเมื่อมองหันหลังให้กับโซนพื้นที่ห้องนั่งเล่น ก็จะเป็น มุมครัวแบบเปิด สไตล์ตะวันตก แบรนด์ Poliform ที่ Built-in ผนังเป็นตู้เก็บของใช้ภายในครัวได้อย่างกลมกลืน พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ Gaggenau สะท้อนรสนิยมที่เรียบหรู ในแบบคนเมืองยุคใหม่
รวมทั้งตัว เคาน์เตอร์ครัว ที่เน้นใช้วัสดุเป็นหินอ่อน ทั้งในส่วนของท็อปเคาน์เตอร์และผนังเคาน์เตอร์ ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย และไม่เกิดริ้วรอยขณะทำอาหาร
มาต่อกันที่ ห้องนอน ที่ยังโดดเด่นด้วยหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นวิวได้อย่างจุใจ รวมทั้งมีขนาดของตัวห้องที่สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้อย่างสบายๆ และยังมีที่เหลือพอ สำหรับหาชุดโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นมาวางข้างๆ เตียงอีกชุดก็ยังได้
จากสเปซห้องนอนก็จะเป็นสเปซของ ห้องน้ำ ที่ส่งต่อความพรีเมียม ด้วยการปูพื้นและผนังด้วยหินอ่อนอย่างดี พร้อมกับแบ่งเป็นพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งออกจากกัน อีกทั้งยังมีเคาน์เตอร์ล้างหน้าขนาดใหญ่ เสมือนพักอยู่ในโรงแรม ระดับ 5 ดาว
ส่วนด้านซ้ายของตัวห้องก็จะเป็นสเปซ ห้องอาบน้ำพร้อมฝักบัวขนาดใหญ่ ที่มีครบทั้งฟังก์ชันน้ำร้อนน้ำเย็น ปรับระดับความสูง มีประตูกระจกกั้นห้องเป็นสัดเป็นส่วนพร้อมด้วยโถสุขภัณฑ์ ซึ่งทั้งหมดเป็นแบรนด์นำเข้าที่ใช้วัสดุทำความสะอาดง่าย และไม่ก่อให้เกิดเชื้อราหรือปัญหาความอับชื้น
และไฮไลต์ตัวห้องนี้เลย คือ ระเบียง ที่ออกแบบมากว้างพร้อมวิวแม่น้ำพร้อมวิวเมืองในมุมสูง ที่ลูกบ้านสามารถนำโต๊ะทานอาหารย้ายมาไว้ด้านนอก เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการทานอาหาร หรือหาต้นไม้มาปลูกเพิ่ม ก็สามารถทำได้เต็มที่
TYPE 2 Bedrooms
ขนาดเริ่มต้น 160.85 ตร.ม.
สำหรับห้องนี้จะเป็นห้องที่ประกอบด้วย 3 ฟังก์ชันย่อยๆ คือ ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร แล้วก็ ห้องครัวแบบเปิด และ ห้องนอน 2 ห้องนอนใหญ่ แถมยังเป็นสเปซห้องที่โดดเด่นด้วย กระจกบานใหญ่ ที่ถูกติดตั้งรอบทิศ ทำให้ภายในห้องนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในห้องได้อย่างทั่วถึง ชนิดที่เรียกว่าประชิดกับวิวริมแม่น้ำแบบสุดๆ แถมยังกันน้ำ กันเสียง และความร้อนได้ดี
และเมื่อเปิดประตูเข้ามา จะพบกับ Foyer ที่มีสเปซสามารถทำเป็นตู้รองเท้าได้ และเดินเข้าไปจะเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ที่สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้สบายๆ
รวมถึงบริเวณ ห้องนั่งเล่น ก็ยังสามารถวางโซฟาชุดใหญ่ได้อีกด้วย ซึ่งบริเวณนี้จะมีหน้าต่าง 2 ฝั่ง ทำให้มองเห็นวิวได้ 2 ทิศทาง แต่ไม่มีระเบียงให้
ถัดไปจะเป็นโซนห้องครัว 2 แบบ ก็รวบตึงทั้งฟังก์ชันและความหรูหราสมส่วนพอดิบพอดี ทั้งแบบครัวฝรั่งเอาไว้เตรียมอาหารเล็กๆ น้อยได้ หรือถ้าต้องการทำอาหารจริงจัง จะมีครัวไทยสำหรับแม่บ้านแยกออกมาต่างหาก ภายในมีห้องน้ำ และห้องนอนแม่บ้านมาให้อีกด้วย
ส่วนโซนพักอาศัยจะมี 2 ห้องนอนใหญ่ ซึ่งทุกห้องจะสามารถวางเตียง 5-6 ฟุตได้ พร้อมมีห้องน้ำในตัว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แต่ตัวห้อง Master Bedroom ที่มีความพิเศษกว่าห้องเล็ก เพราะจะมีพื้นที่ Walk in Closet จาก Poliform
และ ห้องน้ำ ที่มีการแบ่งเป็นพื้นที่โซนเปียกและโซนแห้งออกจากกัน พร้อมกับเคาน์เตอร์ล้างหน้าขนาดใหญ่ รวมทั้งยังมีอ่างอาบน้ำให้ เสมือนพักอยู่ในโรงแรม 5 ดาว ทำให้ห้องไซซ์นี้เหมาะกับครอบครัวขนาดใหญ่มากๆ เลย
ส่วนห้องนอนที่ 2 แม้จะเป็นห้องนอนเล็กสุดของสเปซห้องนี้ แต่ก็มีสเปซเพียงพอที่จะวางที่นอนขนาด 5 ฟุต และวางเฟอร์นิเจอร์หรือทำเป็นมุมสำหรับอ่านหนังสือ นั่งทำงาน ก็ไม่อึดอัดจนเกินไป รวมทั้งยังมีพื้นที่ห้องน้ำหน้าต่างให้เปิดรับอากาศที่บริสุทธิ์ และดื่มด่ำกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย
5: อยู่บนทำเลศักยภาพแบบไม่มีความเสี่ยง
ที่ควรค่าแก่การลงทุน
ว่ากันว่าการจะเป็นสุดยอดอสังหาริมทรัพย์นั้น นอกจากเรื่องของงานดีไซน์แล้ว การที่โครงการตั้งอยู่บน ‘ทำเลศักยภาพ’ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะถ้าอยู่บนทำเลที่ดี ในอนาคตก็สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ แบบนี้โครงการ ‘Banyan Tree Residences Riverside Bangkok’ ก็ถือว่าเป็นโครงการที่ตอบโจทย์ในเรื่องนี้ที่สุดเลยล่ะ
เพราะว่าจุดเด่นของโครงการนี้เลยคือ ตัวอาคารประชิดแม่น้ำมากที่สุด เพราะทั้งตึกห่างจากแม่น้ำแค่ 16 เมตร ต่างจากตึกรุ่นใหม่ๆ ที่ต้องถอยร่นเข้าไปจากริมน้ำมากกว่านี้ราวสามเท่า วิวตรงนี้จึงไม่มีตึกไหนมาบังเลย แถมยังอยู่ในฝั่งที่ได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดในกรุงเทพฯ อีก
และยังเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลหายาก ที่มี Supply ที่จำกัดแต่ความต้องการมีต่อเนื่อง แถมยังเป็นโครงการ FreeHold ระดับ Branded Residence ของ Banyantree ที่นานๆ เราจะหาเจอสักที และอาจจะไม่มีอีกแล้วจึงเป็นอีกหนึ่งโครงการทางเลือกที่ดีในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวแบบไม่มีความเสี่ยง ถึงแม้ทำเลอื่นๆ ในกรุงเทพจะมีการขยายและเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่กำไรด้านทัศนียภาพแก่ผู้พักอาศัยของ ‘Banyan Tree Residences Riverside Bangkok’ ไม่ว่าจะอีกกี่สิบปี วิวโค้งน้ำเจ้าพระยาตรงนี้ ก็จะยังคงอยู่นั่นเอง
สรุป
แต่อย่างที่รู้กันว่าของดีเขามีน้อย แถมยังอยู่บนทำเลทอง ‘ท้องมังกร’ ที่เป็นแลนด์มาร์กกลางโค้งน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นที่นิยมและเหลืออยู่ไม่มาก ทำให้ตอนนี้มีกระแสแรงมาก จนห้องพักเหลือเพียงสเปซห้อง Type 1 Bedroom ในราคาเริ่มต้น 25.09 ล้านบาท และ 2 Bedrooms ราคาเริ่มต้น 49.08 ล้านบาทเท่านั้น บอกเลยว่าต้องรีบ
เพราะเป็นโครงการที่ให้ความคุ้มค่า ในด้านการดีไซน์ระดับพรีเมียมหรูหรา ทั้งสถาปัตยกรรม อินทีเรียดีไซน์ และภูมิสถาปัตยกรรม ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในการพักผ่อนมากๆ แถมยังคงมาตรฐานการให้บริการระดับ Luxury จาก Banyantree เครือโรงแรมและที่พักอาศัยระดับ 5 ดาว ที่พร้อมเติมเต็มทุกการใช้ชีวิต จนอยากอยู่ ติดบ้าน เพื่อชาร์จพลังชีวิต
สำหรับใครที่สนใจเข้าชมโครงการ สามารถลงทะเบียนนัดหมายเพื่อรับชมโครงการได้ที่ >>https://bit.ly/42SU0wZ หรือโทรเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมที่ 02-105-6776
Source from :www.livinginsider.com
Advertising cookies - Cookie Provider | Cookie name | Purpose |
fr wd datr xs presence sb _fbp spin c_user |
Website visitors tracking to measure and target for marketing. | |
Google Ads | Google Ads | |
Line Ad | Line Ad | Website visitors tracking to measure and target for marketing. |
_gat _gat_UA-151845758-1 _gat_UA-84134127-2 _gcl_au _gid |
Website visitors tracking to measure and analyze website traffic. |